ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ก็คนดีเป็นอย่างไร ?
บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความเห็นชอบ
มีความดำริชอบ มีวาจาชอบ มีการงานชอบ
มีการเลี้ยงชีพชอบ มีความเพียรชอบ มีการระลึกชอบ
มีการตั้งมั่นชอบ มีญาณชอบ มีความหลุดพ้นชอบ
บุคคลนี้เราเรียกว่าคนดี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ก็คนดียิ่งกว่าคนดีเป็นอย่างไร ?
บุคคลบางคนในโลกนี้มีความเห็นชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นมีความเห็นชอบอีกด้วย
มีความดำริชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นให้ดำริชอบด้วย.
มีการงานชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นมีการงานชอบด้วย.
มีการเลี้ยงชีพชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นเลี้ยงชีพชอบด้วย.
มีความเพียรชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นมีความเพียรชอบด้วย.
มีการระลึกชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นมีการระลึกชอบด้วย.
มีการตั้งจิตมั่นด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นตั้งจิตมั่นด้วย.
มีการรู้แจ้งด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นรู้แจ้งด้วย.
มีการหลุดพ้นชอบชอบด้วยตนเอง
และชักชวนให้ผู้อื่นมีหลุดพ้นชอบด้วย.
บุคคลนี้เราเรียกว่าคนดีที่ยิ่งกว่าคนดี...”
-------------------------------------
พระไตรปิฎกไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๒๑ หน้าที่ ๒๐๖ ข้อที่ ๒๐๑.
สัปปุริสวรรค